18 มีนาคม 2551

บ่นเรื่องขยะล้นกะของแพง

วันนี้นกสีฟ้าพลัดถิ่นอย่างฉัน ยังคงพำนักอาศัยอยู่ในประเทศกรีซ ทวีปยุโรปทวีปที่บางคนใฝ่ฝันอยากใช้ชีวิตอยู่ในประเทศแถบนี้ แต่สำหรับฉันแล้วหัวใจฉันยังคงร่ำร้องกลับไปอยู่เมืองไทยแผ่นดินที่ฉันเกิดและเติบโตมาจนเกือบครึ่งชีวิต หลายคนมองว่าฝรั่งนั้นเจริญ อะไรๆก็ฝรั่งดีจนถึงขนาดทำเลียนแบบตามก้นฝรั่งกันเลยทีเดียว ฉันกลับมองเห็นว่าฝรั่งหรือไทยก็ไม่เห็นจะแตกต่างกันอย่างไร มีคนฉลาด มีคนโง่ มีคนเอื้อเฟื้อ แล้วก็มีคนมักง่ายเห็นแก่ตัวเช่นกัน วันนี้ในกรุงเอเธนส์ยังคงมีขยะกองท่วมเป็นภูเขาเลากาตามจุดต่างๆ เหตุจากการหยุดงานประท้วงเพื่อขอขึ้นเงินของพนักงาน ที่นี่มีประท้วงเพื่อขอขึ้นเงินกันเรียกได้ว่าเกือบเป็นกิจวัตรแทบทุกเดือน ไม่หน่วยงานใดก็หน่วยงานหนึ่ง ก่อนหน้านี้หลายพื้นที่ในกรุงเอเธนส์ไม่มีไฟฟ้าใช้อยู่นับสัปดาห์ เนื่องจากพนักงานหยุดงานเพื่อขอปรับเงินขึ้น ตอนนี้ไฟฟ้าได้รับการแก้ไข ยังคงเหลือแต่เรื่องของขยะนี่แหละ ดีนะที่ช่วงนี้เป็นปลายฤดูหนาวยังไม่มีแมลงวันมากนัก ถ้าเป็ฤดูร้อนแมลงวันคงร่าเริงเต็มกรุงเอเธนส์ สาเหตุของการประท้วงก็คืออาหารแพงสินค้าอุปโภคบริโภคขยับตัวสูงขึ้นทุกวัน เงินเดือนที่เคยได้รับไม่พอกับการครองชีพจึงต้องขอปรับเงินเดือนขึ้น เมื่อค่าแรงขยับขึ้น ราคาสินค้าก็ขยับตาม ยิ่งตอนนี้ราคาน้ำมันขยับขึ้นตามการอ่อนตัวของค่าเงินดอลล่าร์ ข้าวของก็ขึ้นราคาตามบางอย่างเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว โดยอ้างว่าค่าขนส่งเพิ่มขึ้น คนอยู่เกาะอย่างฉันถึงไม่ต้องผจญชะตากรรมอย่างคนในเมืองหลวงมากนัก เพราะมีพื้นที่สามารถเพาะปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์เพื่อทานเองได้บ้าง ไม่เหมือนคนในเมืองหลวงที่ทุกอย่างต้องซื้อเป็นเงินไปเสียหมด แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีผลกระทบไปด้วย เพราะหลายๆอย่างเรายังต้องซื้อกินซื้อใช้ ซึ่งราคาจะแพงกว่าราคาที่ขายในกรุงเอเธนส์มาก บางอย่างราคาแพงกว่ากันเท่าตัวเลยทีเดียว และช่วงฤดูร้อนปีนี้ ฉันทราบมาจากเอเยนต์ที่ขายตั๋วเรือว่าจะมีการปรับราคาค่าโดยสารเรือขึ้นจากเดิม5-10ยูโรเลยทีเดียว หลายคนวิตกกันอยู่ว่าค่าอาหาร ที่พัก และค่าโดยสารที่ปรับขึ้นอย่างมากนี้จะมีนักท่องเที่ยวมาพักกันสักเท่าใด หากนักท่องเที่ยวน้อยนั่นหมายถึงผลกระทบอย่างหนักเพราะรายได้หลักของเราหลายคนอยู่กับนักท่องเที่ยว เพราะถ้าไม่มีนักท่องเที่ยวผู้ประกอบการที่พักร้านอาหารจะขายใคร ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ปลุกพืชถ้าไม่นักท่องเที่ยวก็คงไม่มีร้านค้าร้านอาหารรับซื้อพืชผักและเนื้อสัตว์เช่นกัน ฉันก็ไม่รู้นะว่า การที่ข้าวของทุกอย่างแพงขึ้นน่ะ มันเป็นเพราะค่าเงินดอลล่าร์ที่อ่อนตัวทำเอานำมันแพงเป็นประวัตฺการณ์ หรือเพราะการบริหารประเทศกันแน่ ซึ่งไม่ว่าจะอย่างไหน ผู้หญิงต่างชาติตัวเล็กๆฉัน ก็ไม่กล้าวิจารณ์อยู่ดีนั่นแหละ

2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ8 มีนาคม 2552 เวลา 20:33

    ขอบคุณสำหรับบทความนะค่ะ

    ตอบลบ
  2. ตอนอ่านได้อารมณ์ เหมือนอยู่ในสถานที่นั้นๆเลยครับ
    ขอบคุณครับ

    ตอบลบ