31 มีนาคม 2551

บทเรียนการโกงจากคนจริงเมืองนคร

บทเรียนการถูกโกงจากคนจริง ทำไมถึงว่าจากคนจริงน่ะหรือ เพราะคนกลุ่มนั้นมักประกาศกับใครต่อใครว่าเค้าเป็นคนจริงกล้าทำกล้ารับน่ะสิ นั้นคือภาพที่สร้าง แต่ความเป็นจริงเจ้าตัวก็คงรู้อยู่แก่ใจ เพราะถ้าเป็นคนจริงแล้วคงไม่ขายศักดิ์ศรีตัวเองด้วยเงินแค่หลักหมื่นหรอกน่า ประกาศตัวว่าเป็นนักอนุรักษ์รักธรรมชาติ แต่ก็แค่ภาพที่สร้างเพื่อผลทางธุรกิจอยู่ดี ฉันคงปล่อยให้เรื่องของคนดกงมันผ่านเลยไปเฉยๆหลังจากที่ ฉันทำบุญถวายสังฆทาน จุดธูปกรวดน้ำกลางแจ้งวันนั้นฉันกล่าวด้วยเสียงอันดังว่า "หากฉันเคยไปเอาหรือไปโกงคนพวกนั้นมา ไม่ว่าชาติใด บัดนี้ฉันได้ชดใช้แล้วด้วยเงินจำนวนนั้น แต่หากว่าฉันไม่เคยเอาของเขามาหรือโกงพวกเขามา แล้วล่ะก็ ความโชคร้าย ภยันตรายใดใด ความเจ็บปวดป่วยไข้ทั้งปวง อันจะเกิดแก่ฉันในชาตินี้ ขอให้พวกเขาเหล่านั้นรับไปแทนฉันตามสัดส่วนของแต่ละคน เพื่อขอให้จบในชาตินี้ไม่ต้องให้พวกเขาตามไปชดใช้ฉันในชาติหน้า และไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหน ขออย่าให้เส้นทางของพวกเขาเหล่านั้นมาบรรจบกับเส้นทางของฉันได้อีก" ทำไมฉันถึงทำขนาดนั้นน่ะหรือ เพราะว่าฉันรู้ดีว่าฉันไม่มีทางได้เงินคืนจากพวกเขา เพราะเค้าได้บอกคนอื่นๆว่าฉันไม่ต้องการเงินคืนเค้าจึงจะเอาเงินจำนวนนั้นไปทำบุญพร้มทั้งส่งเมลหาฉันว่าจะนำเงินและของของฉันไปทำบุญ ฉันจึงได้โทรศัพท์หาผู้หญิง เมื่อฉันบอกว่าหากจะเอาเงินฉันไปทำบุญให้ฉันแทนที่จะคืนฉัน ฉันก็ขอเป็นฝ่ายระบุว่าจะให้นำเงินไปบริจาคที่ใดบ้าง ฝ่ายผู้หญิงในกลุ่มนั้นจึงบอกกับฉันว่า "พี่มันก็แค่จดหมายชี้แจงในที่ประชุม กับเมลบอกสมาชิกน่ะ จริงๆแล้วจะทยอยคืนให้พี่เดือนละ1000 " แต่ฉันไม่เคยเห็นเงินจำนวนที่ว่าจะทยอยส่งคืนแม้แต่สตางค์เดียว ฉันถึงได้ทำบุญกรวดน้ำให้ ซึ่งมันก็น่าจะจบลงได้ แต่ทว่า ตลอดเวลาปีกว่ามานี่ ฉันได้รับการบอกเล่าจากเพื่อนเดินป่าหลายๆคนว่าพวกเค้ายังคงพูดถึงฉันในทางไม่ดีอยู่เสมอ รวมทั้งบอกใครๆว่า คืนเงินให้ฉันหมดแล้ว ฉันคงต้องทำบุญกรวดน้ำอีกครั้งกระมัง ตอนนี้ฉันได้แต่ทำใจว่าช่างเขาถือซะว่าทำบุญถ้าหากการพูดถึงเราในทางร้ายจะทำให้พวกเค้าดูดีขึ้น แต่ถึงอย่างไรฉันก็ต้องขอบคุณพวกเขาที่ทำให้ฉันรู้ว่า คนที่ชอบประกาศตัวว่าเป็นคนดีคนจริงนี่แหละที่เราต้องระวังให้ดี

18 มีนาคม 2551

บ่นเรื่องขยะล้นกะของแพง

วันนี้นกสีฟ้าพลัดถิ่นอย่างฉัน ยังคงพำนักอาศัยอยู่ในประเทศกรีซ ทวีปยุโรปทวีปที่บางคนใฝ่ฝันอยากใช้ชีวิตอยู่ในประเทศแถบนี้ แต่สำหรับฉันแล้วหัวใจฉันยังคงร่ำร้องกลับไปอยู่เมืองไทยแผ่นดินที่ฉันเกิดและเติบโตมาจนเกือบครึ่งชีวิต หลายคนมองว่าฝรั่งนั้นเจริญ อะไรๆก็ฝรั่งดีจนถึงขนาดทำเลียนแบบตามก้นฝรั่งกันเลยทีเดียว ฉันกลับมองเห็นว่าฝรั่งหรือไทยก็ไม่เห็นจะแตกต่างกันอย่างไร มีคนฉลาด มีคนโง่ มีคนเอื้อเฟื้อ แล้วก็มีคนมักง่ายเห็นแก่ตัวเช่นกัน วันนี้ในกรุงเอเธนส์ยังคงมีขยะกองท่วมเป็นภูเขาเลากาตามจุดต่างๆ เหตุจากการหยุดงานประท้วงเพื่อขอขึ้นเงินของพนักงาน ที่นี่มีประท้วงเพื่อขอขึ้นเงินกันเรียกได้ว่าเกือบเป็นกิจวัตรแทบทุกเดือน ไม่หน่วยงานใดก็หน่วยงานหนึ่ง ก่อนหน้านี้หลายพื้นที่ในกรุงเอเธนส์ไม่มีไฟฟ้าใช้อยู่นับสัปดาห์ เนื่องจากพนักงานหยุดงานเพื่อขอปรับเงินขึ้น ตอนนี้ไฟฟ้าได้รับการแก้ไข ยังคงเหลือแต่เรื่องของขยะนี่แหละ ดีนะที่ช่วงนี้เป็นปลายฤดูหนาวยังไม่มีแมลงวันมากนัก ถ้าเป็ฤดูร้อนแมลงวันคงร่าเริงเต็มกรุงเอเธนส์ สาเหตุของการประท้วงก็คืออาหารแพงสินค้าอุปโภคบริโภคขยับตัวสูงขึ้นทุกวัน เงินเดือนที่เคยได้รับไม่พอกับการครองชีพจึงต้องขอปรับเงินเดือนขึ้น เมื่อค่าแรงขยับขึ้น ราคาสินค้าก็ขยับตาม ยิ่งตอนนี้ราคาน้ำมันขยับขึ้นตามการอ่อนตัวของค่าเงินดอลล่าร์ ข้าวของก็ขึ้นราคาตามบางอย่างเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว โดยอ้างว่าค่าขนส่งเพิ่มขึ้น คนอยู่เกาะอย่างฉันถึงไม่ต้องผจญชะตากรรมอย่างคนในเมืองหลวงมากนัก เพราะมีพื้นที่สามารถเพาะปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์เพื่อทานเองได้บ้าง ไม่เหมือนคนในเมืองหลวงที่ทุกอย่างต้องซื้อเป็นเงินไปเสียหมด แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีผลกระทบไปด้วย เพราะหลายๆอย่างเรายังต้องซื้อกินซื้อใช้ ซึ่งราคาจะแพงกว่าราคาที่ขายในกรุงเอเธนส์มาก บางอย่างราคาแพงกว่ากันเท่าตัวเลยทีเดียว และช่วงฤดูร้อนปีนี้ ฉันทราบมาจากเอเยนต์ที่ขายตั๋วเรือว่าจะมีการปรับราคาค่าโดยสารเรือขึ้นจากเดิม5-10ยูโรเลยทีเดียว หลายคนวิตกกันอยู่ว่าค่าอาหาร ที่พัก และค่าโดยสารที่ปรับขึ้นอย่างมากนี้จะมีนักท่องเที่ยวมาพักกันสักเท่าใด หากนักท่องเที่ยวน้อยนั่นหมายถึงผลกระทบอย่างหนักเพราะรายได้หลักของเราหลายคนอยู่กับนักท่องเที่ยว เพราะถ้าไม่มีนักท่องเที่ยวผู้ประกอบการที่พักร้านอาหารจะขายใคร ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ปลุกพืชถ้าไม่นักท่องเที่ยวก็คงไม่มีร้านค้าร้านอาหารรับซื้อพืชผักและเนื้อสัตว์เช่นกัน ฉันก็ไม่รู้นะว่า การที่ข้าวของทุกอย่างแพงขึ้นน่ะ มันเป็นเพราะค่าเงินดอลล่าร์ที่อ่อนตัวทำเอานำมันแพงเป็นประวัตฺการณ์ หรือเพราะการบริหารประเทศกันแน่ ซึ่งไม่ว่าจะอย่างไหน ผู้หญิงต่างชาติตัวเล็กๆฉัน ก็ไม่กล้าวิจารณ์อยู่ดีนั่นแหละ

14 มีนาคม 2551

ดอกไม้จากป่าฝนเขาหลวง1

เขาหลวงก็คือเขาหลวง เขาหลวงทรัพย์แผ่นดินอันมีค่า ที่มิใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นของคนไทยทุกคน เขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวง นครศรีธรรมราช มีพรรณไม้มากมาย สำหรับเราแล้วเขาหลวงเสมือนอุทยานดอกไม้ที่มีผลัดเลี่ยนหมุนเวียนให้ชมตลอดปีทีเดียว ครั้งสุดท้ายที่ได้ไปเดิน เป็นการเดินข้ามปีเลยทีเดียว ก็เริ่มเดินจาก 31 ธันวา 2006 ลงจากเขาอีกทีก็ 2 มกรา 2007นี่นา จะไม่เรียกว่าข้ามปีได้อย่างไร งานนี้ต้องขอบคุณกลุ่มผู้นำทางนายบ่าวและเพื่อนๆชาววังลุง กับพี่สมจิตร จู และเพื่อนร่วมทางอีกหลายคน(นึกชื่อไม่ออกอ่ะ โทษที) ที่ทำให้เราได้เดินชมดอกไม้สวยและทิวทัศน์อันงดงามของเขาหลวง อย่างครื้นเครงและมีความสุข
แม่นางดอกนี้ เราพบช่วงปีใหม่น่ะ ฤดูอื่นไม่พบอ่ะ อาจจะมีแต่เราไม่เจอก็ได้

บีโกเนีย

ลิ้นมังกร

05 มีนาคม 2551

แรกพบเจ้าตัวร้าย

เกิดมาเป็นตัวเป็นตน จนอายุจะปาเข้าไปเลข 4 ก็เพิ่งมีโอกาสได้เป็นแม่คนกะเค้านี่แหละ 8 เดือนสำหรับการประคับประคองเจ้าตัวน้อยให้อยู่ในพุงโตๆ ตะแรกก็ว่าจะให้อยู่สัก 9 เดือนแหละ แต่นายตัวแสบคงอยากออกมาดูโลกเต็มทน เลยแสดงฤทธิ์ ยันชายโครงแม่ด้วยเท้าจนระบม แถมเจ้าตัวแสบยังจะโตเร็วซะจนหมอบอกว่าต้องรีบผ่าออกรอครบ 40 สัปดาห์ไม่ได้ นายเหนือเมฆตัวกลมๆ แก้มป่องๆของแม่เลยออกมาดูโลกในสัปดาห์ที่37
เพิ่งจะออกจากห้องคลอดมาพักฟื้นได้ไม่กี่ชั่วโมง คุณสามีก็จับตัวอะไรก็ม่ายรุเขียวๆแดง หน้าตายับย่นยังกะตัว E.T. ในหนังที่เคยดูตอนเด็กๆเลย แถมยังทำตาปริบๆ แบบสโลว์ด้วยอ่ะ ปากก็กระจิดเดียว ทำเป็นส่งเสียง อ้อแอ้ อ้อแอ้ ทักทาย ประมาณว่าหวัดดีคับแม่ป๋มออกมาแล้วนะ เหอ เหอ เหอ นี่ลูกฉันเหรอเนี่ย ถ้าทางโตขึ้นจะพูดมากน่าดู เราก็เลยทักทายตอบไปว่ามาเฟีย แล้วก็สลบต่อ คร่อกกกก